“โตโน่ ภาคิน” เผยชีวิตผ่านมาทุกแบบ เปิดใจดราม่าถาโถม “ไม่ได้อยากถูกต่อว่า”

เปิดเบื้องหลังความเวอร์ ตัวแม่ “คาร์ดิ บี” (Cardi B) จิกเครื่องประดับไทย เฉิดฉายงาน Met Gala 2023

“เต้ย อภิวัฒน์” เผยภาพวันแต่ง “ขนม ศศิกานต์” เรียบง่ายและอบอุ่นมาก

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่เรื่องราวชีวิตกว่าจะมีถึงจุดประสบความสำเร็จ ก็ผ่านเรื่องราวร้อนหนาวมานับไม่ถ้วน สำหรับนักร้องและพระเอกหนุ่ม “โตโน่ – ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่ได้มาประเดิมเป็นแขกรับเชิญคนแรกให้ “ตั้ม-โดม” รุ่นน้องเดอะสตาร์ ในรายการ “ดีทอล์ค” ทางช่องยูทูบ 3D Channelคำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง

โดย “โตโน่” ได้เผยถึงชีวิตที่ต่อสู้ทำทุกอย่างเพื่อเงิน ก่อนที่เวทีการประกวดจะเปลี่ยนชีวิต รวมไปถึงได้เปิดใจถึงกระแสดราม่าที่เจออย่างถาโถม

“ตั้งแต่เดอะสตาร์ ก็อยู่วงการประมาณ 13 ปี จริงๆ แล้วหลังจากเรียนจบผมก็ไปล้างจานที่เยอรมัน มีอาชีพเสริมคือขัดห้องน้ำ ตอนนั้นผมมองว่าการเรียนเป็นหน้าที่หนึ่งที่ต้องทำให้แม่สบายใจ ผมก็ทำหน้าที่นั้นมันจบ แต่พอเรียนจบก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาทำงานประจำ ผมแค่เรียนให้จบเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ออกมาหาเงิน

ถามว่ามีเป้าหมายในชีวิตไหม ตอนนั้นคือ ‘อยากหาเงิน’ อะไรก็ได้ที่ทำแล้วได้เงิน เหตุผลที่เลือกไปหาเงินที่เยอรมันเพราะญาติทำร้านอาหารแล้วขาดคนงาน ผมทำงาน 3 เดือนได้ 90,000 บาท หักค่าตั๋วเครื่องบินแล้วก็เหลือ 50,000 บาท แล้วก็อยากไปดูหิมะด้วย เคยมีความฝันด้วยเพราะได้ยินคนพูดถึงการไปต่างประเทศ เราก็อยากมีอารมณ์นั้นบ้าง ผมเคยอยากไปถึงขั้นเก็บไปฝันว่ากำลังได้ขึ้นเครื่องบิน พอมีโอกาสเข้ามาผมก็ยืมเงินลุงซื้อตั๋ว พอไปทำงานล้างจานแล้วก็หาทำอีกอาชีพนึงที่คนไม่ค่อยทำกันคือขัดห้องน้ำผับได้เงินเพิ่มอีก

แล้วหลังจากบินกลับมา ก็เอาเงินที่ได้มาต่อยอดซื้อตู้เติมเงินโทรศัพท์ที่ยุคนั้นกำลังฮิต ผมก็มีรายได้ประมาณเดือนละ 15,000 บาท แล้วจากนั้นก็มีโอกาสได้มาประกวด “เดอะสตาร์” เพราะมีพี่ทีมงานไปเจอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ความรู้สึกแรกผมก็ไม่ได้คิดจะมาสมัคร แต่จะพาเพื่อนที่เสียงดีไปสมัคร แต่ผมก็ลองสมัครไปด้วย เพราะเป็นช่องทางที่อาจจะพลิกชีวิตผม แต่สุดท้ายเพื่อนก็ไม่สมัคร

ผมโชคดีที่เข้ารอบเป็นตัวแทนภาค ตอนนั้นผมก็ไปบอกแม่แล้วก็เห็นแม่ร้องไห้ดีใจและสบายใจที่ผมยกเลิกกลับไปเยอรมัน ผมรู้สึกว่ามีค่ามากที่เห็นแม่วันนั้น เลยทำให้ตัวเองจะเล่นๆ ไม่ได้ และก็มีอีกหลายคนที่มีความฝันในเส้นทางนี้ ก็เปลี่ยนความคิดผมเลย ผมขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสผม ผมโชคดีมาก”

นอกจากนั้น “โตโน่” เล่าต่อถึงกระแสต่างๆ ที่ถาโถมเข้าว่า จริงๆ แล้วเป็นคนที่ฟังคำคนนะ เป็นคนที่แคร์คน

“ผมไม่อยากให้คนไม่เข้าใจผมหรอก ผมไม่อยากให้คนว่าผมหรอก แต่พอผมคิดแล้วว่าผมห้ามไม่ได้ ผมก็ต้องปล่อย ผมอยากให้คนฟังเข้าใจนะ อยากให้คนฟังได้ประโยชน์จากสิ่งที่ผมพูดแต่บางคนเขาอาจจะไม่ชอบผม ถามว่าผมเสียใจไหม ผมก็เสียใจนะ ผมอยากให้คุณรักผมนะ ผมไม่เคยไม่ชอบคุณเลย คุณจะเข้าใจผมผิดไปต่างๆ นานา หรือจะตัดสินผมจากเรื่องอะไรก็ตามแต่ แต่ผมไม่เคยตัดสินคุณเลย ผมอยากให้คุณมีความสุขจากงานของผม แต่ถ้าผมพยายามแล้ว แล้วเขาไม่รับ เขาตัดสินผมแล้ว มันเกินหน้าที่ของเรา

ผมทำได้แค่ย้อนกลับมาโฟกัสในสิ่งที่ผมคิดและทำว่าสิ่งที่ผมคิดหรือทำอยู่ มันส่งกระทบไม่ดีกับใครไหม ถ้าส่งผลกระทบไม่ดีกับใครผมไม่ทำ แต่ถ้าไม่ใช่ แต่ดันมีคนไม่ชอบ ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าผมคิดดูแล้วว่าจะมีคนได้รับประโยชน์นะ ผมมารายการของตั้ม แฟนๆ ไม่เคยดูรายการนี้เขาได้มาดู มันอาจจะมีประโยคหรือบางคำก็ได้นะที่เป็นกำลังใจให้กับเขา ซึ่งผมหวังอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นผมก็ได้ถ่ายทอดในสิ่งที่เราได้คุยกัน”